Category Archives: เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฟัน

อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็นเกิดขึ้นได้อย่างไร

อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็นเกิดขึ้นได้อย่างไร

อาการปวดฟัน เป็นปัญหาใหญ่ เพราะเมื่อปวดขึ้นมาจะรู้สึกทรมาน แทบไม่อันทำอะไรเลย สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดฟันนั้นมีด้วยกันหลายประการ แต่มีอาการปวดฟันอย่างหนึ่งที่แปลกว่าสาเหตุอื่นก็คือ อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็น บทความนี้จะได้กล่าวถึงเรื่องนี้ อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็นเป็นอย่างไร อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็นเป็นอาการต่อเนื่องกับสภาวะเสียวฟันเวลากินน้ำเย็น ถ้าเทียบแล้วอาการปวดฟันจะเป็นขั้นกว่า คือมีอาการมากกว่า อาจบอกได้ว่า รู้สึกปวดตุบๆ เมื่อพูดถึงอาการปวดฟันจึงต้องกล่าวต่อจากอาการเสียวฟัน สาเหตุที่ทำให้มีอาการเสียวฟัน อาการเสียวฟันเกิดจากปัญหาสุขภาพฟันและช่องปาก ในส่วนของฟันนั้นเป็นเพราะเคลือบฟันถูกทำลาย สึกกร่อน ทำให้ประสาทฟันที่อยู่ตรงเนื้อฟันไม่มีอะไรปกป้อง เวลาโดนอะไรเข้าจึงรู้สึกว่าเสียวฟัน ไม่ว่าจะเป็นความร้อน ความเย็น หรือแม้แต่บางครั้งแค่ลมพัดถูกฟันก็รู้สึกเสียวฟันแล้ว ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟันนั้น มีหลายสาเหตุ เช่น เหงือกร่น สาเหตุใหญ่มาจากการที่ใช้แปรงที่มีขนแข็งและแปรงผิดวิธีแบบถูไปมาทางขวาง ไม่ได้ปัดขึ้นลงตามฟันแต่ละซี่ ฟันผุ แน่นอนว่า เมื่อเคลือบฟันถูกทำลายไป จะเหลือแต่เนื้อฟันที่ไม่มีเกราะป้องกัน ต้องเผชิญทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียวฟัน ปัญหาโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้เป็นอย่างอื่นอีก เช่น เหงือกร่น ไม่ปกคลุมคอฟัน มีโอกาสเสียวฟันเวลากินน้ำเย็น เจออากาศเย็น หรือลมเย็นๆ ซึ่งอาจยังไม่ถึงขั้นปวดฟัน การบิ่นหักของฟันเรื่องนี้นี่เองที่อาจเป็นที่มาของการปวดฟันเวลากินน้ำเย็น ถ้าฟันที่บิ่นหรือหักไม่มากนัก ก็อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน เพราะความเย็นไปถูกเนื้อฟันโดยตรง แต่ถ้ามีการอักเสบและลามไปถึงโพรงประสาทฟัน กรณีนี้ อาจมีการอักเสบมากๆ และทำให้ปวดฟันได้ การกินอาหารที่มีความเป็นกรดสูงเป็นประจำ ทำให้ฟันผุกร่อน […]

การใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันสำคัญหรือไม่

การใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันสำคัญหรือไม่

ก่อนตัดสินใจจัดฟัน เชื่อว่าทุกท่านต้องได้ศึกษาหาข้อมูลมาก่อน ซึ่งในหัวข้อหนึ่งที่ต้องทราบก็คือ หลังการจัดฟันเสร็จจะต้องใส่ “รีเทนเนอร์” ต่อเนื่องอีก การใส่รีเทนเนอร์หลังจัดฟันสำคัญหรือไม่ สำคัญอย่างไร เรามาดูกัน รีเทนเนอร์คืออะไร รีเทนเนอร์ เป็นอุปกรณ์ที่ทำขึ้นสำหรับใส่ประคองฟันสำหรับคนจัดฟันที่จัดฟันเสร็จแล้วและเพิ่งถอดเครื่องมือจัดฟัน เพื่อเป็นตัวช่วยประคองฟันที่เพิ่งจัดเสร็จใหม่ๆ และยังไม่สามารถคงอยู่ในตำแหน่งหลังจัดได้ด้วยตัวเองให้คงอยู่ในตำแหน่งที่จัด รีเทนเนอร์มีกี่แบบ ตัวรีเทนเนอร์เองก็ยังมีการออกแบบมาให้คนไข้ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมและตามความชอบของตัวเอง ซึ่งมีด้วยกันหลายแบบ คือ รีเทนเนอร์แบบลวด สังเกตรีเทนเนอร์ประเภทนี้เมื่อใส่แล้วจะเห็นเป็นลวดโลหะที่คาดฟันเอาไว้ ส่วนด้านในที่ไม่เห็นคือ มีตัวฐานที่เป็นพลาสติกหรืออะคริลิก รีเทนเนอร์ชนิดนี้มีจุดเด่นคือ ถอด-ใส่ได้ง่าย แก้ไขได้ ปรับได้ และมีความทน แต่อาจจะดูคล้ายกับว่า จัดฟันไม่เสร็จสักที เพราะยังเห็นคล้ายลวดติดกับฟันอยู่อย่างต่อเนื่อง และผู้ใส่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการมีฐานของรีเทนเนอร์อยู่ในปาก อาจมีผลต่อการพูดหรือรำคาญบ้าง รีเทนเนอร์แบบใส เป็นรีเทนเนอร์ที่มีความใสเป็นจุดเด่น ทำให้คนภายนอกถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นว่าใส่รีเทนเนอร์อยู่ โดยลักษณะเป็นพลาสติกหรือโพลียูรีเทน ที่ครอบไปกับฟันซึ่งต้องจัดทำขึ้นโดยเฉพาะบุคคล เนื่องจากเป็นการทำพิมพ์ขึ้นเฉพาะบุคคลจึงไม่สามารถปรับแก้ไขได้อีก ถ้าคนไข้ปล่อยให้ฟันเคลื่อนแม้แต่นิดเดียวก็อาจจะใส่ไม่ได้อีก แต่ข้อดีก็มีตรงที่ใสกลืนไปกับฟัน ถ้าไม่สังเกตจริงๆ รีเทนเนอร์เเบบติดแน่น ชื่อบอกชัดเจนว่ารีเทนเนอร์ชนิดนี้ติดถาวร ไม่สามารถถอดเองได้ ต้องให้ทันตแพทย์เป็นผู้ดำเนินการใส่และถอดเมื่อต้องการ ตัวรีเทนเนอร์จะเป็นลวดที่ยึดตำแหน่งฟันจากด้านใน คนอื่นมองไม่เห็น ข้อดีคือไม่มีการละเลยเพราะใส่ติดอยู่ตลอดเวลา จึงได้ผลแน่นอน และมั่นใจว่า ฟันหลังจัดไม่มีการเคลื่อนแน่ๆ รีเทนเนอร์ประเภทนี้จึงเหมาะกับเด็กเล็กที่ผู้ปกครองจะได้ไม่ต้องคอยควบคุมดูแลให้ใส่ ทำไมต้องใส่รีเทนเนอร์ เหตุผลที่คนจัดฟัน หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันออก […]

จัดฟันใช้เวลานานเท่าไหร่

                                 เมื่อตัดสินใจแล้วว่าจะจัดฟัน คำถามที่คนไข้ทุกคนจะต้องถามทันตแพทย์ก็คือ ต้องใส่เครื่องมือจัดฟันไว้เป็นเวลานานแค่ไหน คำตอบนี้จะแตกต่างกันไปสำหรับคนไข้แต่ละคน และสภาพฟัน ช่องปากและอุปกรณ์ที่เลือกใช้ในการจัดฟันของแต่ละคนนั้นแตกต่างกันมีหลายปัจจัยที่ทำให้คนไข้แต่ละคนใช้เวลาในการจัดฟันแตกต่างกัน เช่น อายุของคนไข้ ลักษณะความผิดปกติของฟัน ที่้มีทั้งการเรียงตัวไม่ปกติเพียงเล็กน้อย และความผิดปกติของขากรรไกร ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ตลอดจนเครื่องมือที่คนไข้เลือกใช้ในการจัดฟันด้วย ทันตแพทย์จะต้องประเมินสถานการณ์โดยรวมทั้งหมดของคนไข้แต่ละคนก่อน จึงจะสามารถบอกได้ว่า คนไข้รายนั้น ๆ จะต้องใช้เวลาในการใส่เครื่องมือจัดฟันนานแค่ไหน             เมื่อคนไข้มาพบทันตแพทย์เฉพาะทางในสาขาจัดฟันเพื่อรับคำปรึกษา ทันตแพทย์จะตรวจสุขภาพในช่องปากอย่างละเอียด เอ็กซเรย์ ทำแบบจำลองฟัน ถ่ายภาพ ซักประวัติ และนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินว่าคนไข้ต้องการรับการรักษาในลักษณะใด แต่โดยเฉลี่ยแล้ว การจัดฟันนั้นจะใช้เวลาประมาณ 16-18 เดือน ในคนไข้บางรายอาจจะต้องใช้เวลานานถึง 24 เดือน หรือมากกว่านั้น และคนไข้บางรายก็อาจจะใช้เวลาในการจัดฟันเพียงแค่ […]

การจัดฟันเป็นกระบวนการรักษาทางทันตกรรม

การจัดฟันเป็นกระบวนการรักษาทางทันตกรรม ในการจัดเรียง ตำแหน่งของฟันที่อยู่เรียงตัวผิดปกติ การจัดฟันทำให้ฟันเรียงตัวอยู่ในตำแหน่งที่สวยงาม และยังช่วยในเรื่องการสบกันของฟันบนกับฟันล่าง นอกจากจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและสุขภาพของช่องปากและฟันแล้ว การจัดฟันยังช่วยเพิ่มความสวยงามของฟัน ทำให้พูดหรือยิ้มได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น เมื่อมีปัญหาเรื่องการจัดเรียงตัวของฟันในช่องปาก เรามาดูเหตุผลที่เราควรจัดฟัน ดังนี้ 1.ทำให้มีการสบฟันที่ถูกต้อง ส่งผลให้เคี้ยวอาหารได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 2.เมื่อเรามีฟันที่เรียงตัวสวยงามแล้ว เราก็จะสามารถทำความสะอาดฟันได้ง่าย และมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3.ฟันเรียงตัวเป็นระเบียบสวยงาม เสริมบุคลิกภาพให้ดูดีขึ้น ยิ้มได้อย่างมั่นใจ 4.การสบฟันที่ดี สามารถช่วยในการออกเสียงได้ชัดเจน 5.เมื่อฟันเราเรียงตัวเป็นระเบียบ ทำความสะอาดง่าย ก็จะสามารถลดโอกาสในการเกิดโรคฟันผุหรือโรคเหงือกอักเสบ 6.ใบหน้าได้รูปและสัดส่วนที่สวยงาม อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่อยู่ในระหว่างการจัดฟันอยู่ การทำความสะอาดฟันจะยุ่งยากขึ้น ดังนั้น ควรทำความสะอาดฟันตามที่ทันตแพทย์แนะนำและควรตรวจฟันทุก 3-6 เดือน

การแปรงฟัน

การแปรงฟัน เป็นสิ่งที่ทุกคนควรปฏิบัติเป็นประจำวันละ 2 ครั้งทุกเช้าและก่อนนอน โดยส่วนใหญ่แล้วอาจจะแปรงแค่ตัวฟันและเหงือกเท่านั้น เพราะคิดว่าเพียงพอแล้ว แต่อาจจะลืมไปว่าการแปรงลิ้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และเป็นสิ่งที่ไม่ควรละเลยก็ว่าได้ เพราะลิ้นของเราประกอบด้วยตุ่มรับรสจำนวนมากแถมด้วยร่องลึก ซึ่งเป็นที่อยู่ชั้นดีของคราบอาหารและเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์และอาจเป็นที่มาของความรู้สึกว่าช่องปากไม่สะอาดหลังแปรงฟัน การทำความสะอาดลิ้นถือเป็นสุขลักษณะที่สำคัญ จะช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว รวมทั้งไล่แบคทีเรีย สารพิษ เชื้อรา และเศษอาหารที่ติดอยู่บนผิวลิ้นได้ การแปรงลิ้น มีวิธีแปรงดังนี้ 1.ใช้แปรงสีฟัน ชนิดขนอ่อนนุ่ม ไม่ควรใช้แบบที่แข็งจนเกินไป หรืออาจจะหาซื้อที่แปรงลิ้นโดยเฉพาะเลยก็ได้ 2.ยืนหน้ากระจก แล้วแลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุด 3.วางแปรงบนลิ้น แล้วปัดแปรงออกมาเบาๆ อย่าล้วงเข้าไปลึกจนเกินไป อาจทำอาเจียนได้ 4.แปรงจากด้านใน ออกมาด้านนอก จนทั่วทั้งลิ้น หลังจากนั้นบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด 5.นอกจากการแปรงลิ้นแล้ว เราควรใช้แปรงสีฟัน แปรงเบาๆ ที่กระพุ้งแก้มด้วย

ฟันแท้และฟันน้ำนม

ฟันแท้และฟันน้ำนม มีความสำคัญต่อเราทุกคน ทั้งการบดเคี้ยวอาหารหรือจะเป็นด้านความสวยงาม แต่ผู้ปกครองมักจะให้ความสนใจแต่ฟันแท้ เพราะคิดว่าเป็นฟันที่อยู่กับเราตลอดชีวิต โดยมองข้ามความสำคัญของฟันน้ำนมไป ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรละเลยความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของฟันน้ำนม ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีพอ เมื่อขากรรไกรมีขนาดใหญ่ขึ้นและฟันน้ำนมไม่ถูกถอนก่อนวัยอันควร ฟันแท้ที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีโอกาสเรียงตัวได้ดีและสวยงาม แต่ถ้าฟันน้ำนมถูกถอนก่อนกำหนด จะทำให้เกิดผลเสียตามมา การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดฟันแท้ในตำแหน่งนั้นจะขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาตามมา ดังนี้ 1.เมื่อสูญเสียฟันหน้า อาจทำให้เด็กพูดบางคำไม่ชัดได้ 2.เมื่อสูญเสียฟันหลัง เด็กก็จะไม่มีฟันใช้เคี้ยวอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด 3.การถอนฟันน้ำนมก่อนกำหนดในบางตำแหน่ง อาจจะทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาก่อนล้มเข้าหาช่องว่างที่ถอนฟันน้ำนมไป ทำให้ฟันแท้ที่อยู่ในกระดูกขากรรไกร ไม่มีเนื้อที่ให้ขึ้นมาตรงๆได้ เกิดฟันซ้อน ฟันเกในภายหลังได้

Tea time

Tea time ชานั้นมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มีรสฝาด พบมากในกาแฟ ชา และไวน์ ทำให้เกิดคราบเหลืองติดแน่นบนผิวฟัน การดื่มชาบ่อยๆ จะมีโอกาสให้เกิดคราบสีเหลืองเกาะติดที่แผ่นคราบน้ำลายหรือแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่เคลือบอยู่บนผิวฟัน ส่งผลให้ฟันมีสีเหลืองเข้มขึ้น เมื่อไม่ได้กำจัดออกแผ่นคราบเหล่านี้ ก็จะกลายมาเป็นหินปูนสะสมบนตัวฟันได้ ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ โดย 1.ควรแปรงฟันหลังการดื่มชา 2.ควรใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันด้วยทุกครั้ง 3.พบทันตแพทย์ เพื่อขูดหินปูนและขัดฟัน ทุก 6-12 เดือน

ทำไมยาสีฟันจึงต้องผสมฟลูออไรด์

ทำไมยาสีฟันจึงต้องผสมฟลูออไรด์ ฟลูออไรด์เป็นเกลือของธาตุฟลูออรีน พบได้ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และพบอาหารบางชนิด โดยเฉพาะอาหารทะเลและในพืชผักบางชนิด ตลอดจนมีการผลิตขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ ในรูปแบบต่างๆ คนเราได้รับฟลูออไรด์ทางธรรมชาติจากน้ำ ดื่มและอาหาร ฟลูออไรด์จะถูกดูดซึมได้เกือบหมด และไปสะสมที่กระดูกและฟัน ในทาง ทันตกรรมนั้นใช้เพื่อการป้องกันฟันผุ ส่วนของฟันที่ขึ้นมาในช่องปากแล้วจะใช้ฟลูออไรด์ในลักษณะให้ สารฟลูออไรด์ได้สัมผัสกับผิวเคลือบฟัน เช่น การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ การใช้น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ จะทำให้สภาพช่อง ปากได้รับฟลูออไรด์ในความเข้มข้นต่ำๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะไปเพิ่มความ แข็งแรงให้กับฟันอย่างได้ผลดี ฟลูออไรด์ที่ผสมในยาสีฟันสามารถจะช่วยป้องกันฟันผุ ซึ่งก็ต้องร่วมกับการทำความสะอาดฟันที่ถูกวิธี โดย – ช่วยชะลอการย่อยสลายของแร่ธาตุ – ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อกรดให้ผิวเคลือบฟัน ถ้าได้รับ ฟลูออไรด์โดยการกิน ในช่วงที่มีการสร้างฟัน ทำให้ฟันมีโอกาสผุยากขึ้น – เสริมกระบวนการคืน กลับของแร่ธาตุบนผิว เคลือบฟัน ทำให้ยับยั้งการผุของผิวเคลือบฟันใน ระยะแรกๆ ฟลูออไรด์มีประโยชน์ แต่ก็ควรระมัดระวังในการใช้ ไม่ควรใช้ฟลูออไรด์ในปริมาณที่มากเกินไป เช่น การกินยาเม็ด ยาน้ำฟลูออไรด์ ต้องกินในปริมาณที่กำหนด หรือการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ต้องระวังการกลืนยาสีฟัน โดยใช้ปริมาณยาสีฟันแค่พอเพียงประมาณขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พอ

เคลือบฟันเทียม หรือ วีเนียร์

เคลือบฟันเทียม หรือ วีเนียร์ เมื่อมีปัญหาฟันหน้าบิ่น สึก หัก มีสีเหลืองหรือสีคล้ำ มีขนาดฟันไม่เท่ากัน ทำให้ไม่มีความมั่นใจที่ต้องยิ้มและใช้งานฟัน การแก้ความบกพร่องเหล่านี้ด้วยเคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ ให้ฟันกลับมาสวยงาม ยิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง เป็นอีกทางเลือกที่เป็นการอนุรักษ์เนื้อฟันได้มากกว่าการทำครอบฟัน ซึ่งเคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ คือ การเคลือบผิวฟันโดยใช้วัสดุที่มีลักษณะสีคล้ายเคลือบฟันธรรมชาติ มาติดบริเวณด้านหน้าฟัน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของความสวยงามน่ามอง เคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ มีอยู่ 2 ชนิด คือ 1. เคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ แบบใช้วัสดุอุดฟันคอมโพสิตเรซิน โดยการนำเอาวัสดุมาปิดบริเวณด้านหน้าของฟันภายหลังการกรอผิวฟันธรรมชาติออกเล็กน้อยหรือในบางกรณีก็อาจจะไม่ต้องกรอเลย ซึ่งวิธีนี้สามารถทำในคลินิกได้ทันที โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. 2. เคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ แบบเซรามิก โดยวิธีนี้ต้องมีการกรอแต่งผิวหน้าฟันและต้องมีการพิมพ์แบบฟัน เพื่อส่งแลปทำชิ้นงานเซรามิก ซึ่งต้องใช้เวลามาที่คลินิคอีกครั้งเพื่อยึดติดชิ้นงานถาวรบนผิวฟัน

3 อาหารที่มีคุณประโยชน์ ช่วยให้มีรอยยิ้มที่มั่นใจ

3 อาหารที่มีคุณประโยชน์ ช่วยให้มีรอยยิ้มที่มั่นใจ 1.น้ำเปล่า เป็นส่วนประกอบหลักในร่างกายมนุษย์ การดื่มน้ำให้เพียงพอและสม่ำเสมอมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ปริมาณของน้ำที่ดื่มในทุกวันมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพื่อสุขภาพที่ดีผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วต่อวัน การมีกลิ่นปากเป็นสัญญาณว่าคุณอาจดื่มน้ำไม่เพียงพอ เพราะน้ำช่วยให้ปากชุ่มชื้นและช่วยล้างเศษอาหารที่ตกค้างรวมไปถึงแบคทีเรียในปากได้ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเจือจางสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในปากซึ่งแบคทีเรียสร้างขึ้นมา ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหารหรือมื้ออาหารว่างเพื่อควบคุมกลิ่นและช่วยขจัดแบคทีเรีย รวมไปถึงเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันและซอกเหงือกด้วย 2.ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีกากใย ประโยชน์และสรรพคุณของผักใบเขียวจะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ ทั้งยังช่วยในเรื่องของการมองเห็น เพราะในผักใบเขียว มีแคโรทีนอยด์ถึงสองชนิดคือ ลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จะช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์ใหม่ ๆ ทั้งเป็นแหล่งวิตามินอีและโฟเลตที่ช่วยชะลอปัญหาความจำเสื่อม นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ก็ยังสามารถช่วยขัดสีฟัน ทำให้ลดอัตราการเกิดฟันผุทางอ้อมได้อีกด้วย 3.ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ประโยชน์ของวิตามินซีมีมากมากหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยปกป้องเซล เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็นและคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี จึงสามารถป้องกันการทำลายเซลจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และช่วยให้ร่างกายสามารถรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ ดังนั้นการทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ก็จะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อภายในช่องปาก ลดการเกิดการอักเสบบริเวณเหงือกและลดการเกิดเลือกออดตามไรฟันได้ อย่างไรก็ตามอาหารเหล่านี้ก็เป็นเพียงปัจจัยเสริม การที่เราจะมีรอยยิ้มที่สวยงาม มีความมั่นใจ ก็จะต้องหมั่นแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอประกอบด้วยเช่นกัน

ย้อนกลับด้านบน