อาการปวดฟัน เป็นปัญหาใหญ่ เพราะเมื่อปวดขึ้นมาจะรู้สึกทรมาน แทบไม่อันทำอะไรเลย สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการปวดฟันนั้นมีด้วยกันหลายประการ แต่มีอาการปวดฟันอย่างหนึ่งที่แปลกว่าสาเหตุอื่นก็คือ อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็น บทความนี้จะได้กล่าวถึงเรื่องนี้
อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็นเป็นอย่างไร
อาการปวดฟันเวลากินน้ำเย็นเป็นอาการต่อเนื่องกับสภาวะเสียวฟันเวลากินน้ำเย็น ถ้าเทียบแล้วอาการปวดฟันจะเป็นขั้นกว่า คือมีอาการมากกว่า อาจบอกได้ว่า รู้สึกปวดตุบๆ เมื่อพูดถึงอาการปวดฟันจึงต้องกล่าวต่อจากอาการเสียวฟัน
สาเหตุที่ทำให้มีอาการเสียวฟัน
อาการเสียวฟันเกิดจากปัญหาสุขภาพฟันและช่องปาก ในส่วนของฟันนั้นเป็นเพราะเคลือบฟันถูกทำลาย สึกกร่อน ทำให้ประสาทฟันที่อยู่ตรงเนื้อฟันไม่มีอะไรปกป้อง เวลาโดนอะไรเข้าจึงรู้สึกว่าเสียวฟัน ไม่ว่าจะเป็นความร้อน ความเย็น หรือแม้แต่บางครั้งแค่ลมพัดถูกฟันก็รู้สึกเสียวฟันแล้ว
ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเสียวฟันนั้น มีหลายสาเหตุ เช่น
- เหงือกร่น สาเหตุใหญ่มาจากการที่ใช้แปรงที่มีขนแข็งและแปรงผิดวิธีแบบถูไปมาทางขวาง ไม่ได้ปัดขึ้นลงตามฟันแต่ละซี่
- ฟันผุ แน่นอนว่า เมื่อเคลือบฟันถูกทำลายไป จะเหลือแต่เนื้อฟันที่ไม่มีเกราะป้องกัน ต้องเผชิญทุกสิ่งทุกอย่างด้วยตัวเอง จึงมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียวฟัน
- ปัญหาโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งอาการนี้จะส่งผลให้เป็นอย่างอื่นอีก เช่น เหงือกร่น ไม่ปกคลุมคอฟัน มีโอกาสเสียวฟันเวลากินน้ำเย็น เจออากาศเย็น หรือลมเย็นๆ ซึ่งอาจยังไม่ถึงขั้นปวดฟัน
- การบิ่นหักของฟันเรื่องนี้นี่เองที่อาจเป็นที่มาของการปวดฟันเวลากินน้ำเย็น ถ้าฟันที่บิ่นหรือหักไม่มากนัก ก็อาจทำให้เกิดอาการเสียวฟัน เพราะความเย็นไปถูกเนื้อฟันโดยตรง แต่ถ้ามีการอักเสบและลามไปถึงโพรงประสาทฟัน กรณีนี้ อาจมีการอักเสบมากๆ และทำให้ปวดฟันได้
- การกินอาหารที่มีความเป็นกรดสูงเป็นประจำ ทำให้ฟันผุกร่อน หากทำลายถึงเนื้อฟัน ทำลายท่อประสาทฟัน ก็ทำให้ปวดฟันได้
- ฟันที่มีคราบหินปูนเกาะมากๆ เนื่องจากแปรงฟันไม่สะอาดพอและไม่ได้ขูดหินปูนนานๆ อาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เคลือบฟันหลุด การกินอาหารหรือดื่มน้ำเย็นจัด ก็ทำให้เสียวฟันได้
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดเสียวฟันจนลุกลามไปถึงปวดฟัน
การป้องกันนั้น ต้องเริ่มตั้งแต่ป้องกันไม่ให้เกิดการเสียวฟันเบื้องต้น ดังนี้
- ป้องกันการสึกกร่อนของเคลือบฟันโดยเลิกพฤติกรรมที่นำมาซึ่งการสึกกร่อนของฟัน ตั้งแต่งดการกินอาหารที่มีกรด
- ป้องกันการหักบิ่นของฟัน โดยการงดอาหารที่มีความแข็งมากเกินไป ไม่ใช้ฟันผิดหน้าที่ของฟัน เพราะมีบางคนคิดว่าตัวเองมีฟันแข็งแรง ก็ใช้ฟันกัดวัสดุต่างๆ แทนมีด กรรไกร เป็นต้น
- ป้องกันฟันผุ ต้องป้องกันตั้งแต่เบื้องต้นคือ รักษาความสะอาดฟันประจำวัน แปรงฟันให้ถูกวิธี ใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงอ่อนนุ่ม ไม่แข็งเกินจนอาจทำลายเคลือบฟัน และทำให้ฟันผุง่าย เลือกใช้ยาสีฟันที่ผสมฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟันหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ
- ไม่ปล่อยให้หินปูนเกาะฟันจนทำลายผิวเคลือบฟันได้ ด้วยการพบทันตแพทย์ตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน ทันตแพทย์จะได้ขูดหินปูนให้ตามวันเวลาที่เหมาะสม
- ไม่รับประทานอาหารที่มีรสจัดเกินไป โดยเฉพาะรสเปรี้ยวจัด ไม่กินจุบจิบระหว่างมื้อ เพราะเราอาจไม่สะดวกในการทำความสะอาดฟันตลอดเวลา
- ป้องกันไม่ให้เหงือกร่น ข้อนี้ป้องกันได้ตั้งแต่แปรงฟันถูกวิธี ขนแปรงไม่แข็งเกินไป
- ดูแลอย่าให้เหงือกอักเสบ เพราะอาจลุกลาม ติดเชื้อลึกเข้าไปภายในฟัน ไม่ดูเบาคิดว่า แค่อักเสบกินยาเดี๋ยวก็หาย
- แต่อย่างหนึ่งที่เราอาจจะป้องกันไม่ได้แบบ 100% ก็คือ กรณีฟันหักบิ่นจากอุบัติเหตุ แต่อาจช่วยไม่ให้รุนแรงขึ้นก็คือ เมื่อประสบอุบัติเหตุมีฟันหักบิ่น ต้องพบทันตแพทย์เพื่อหาทางเยียวยารักษา อย่าปล่อยทิ้งไว้ เพราะถ้าบิ่นหักมาก เนื้อฟันของเราจะเป็นส่วนที่รับสัมผัสทั้งอาหาร น้ำ ฯลฯ
โดยรวมคือ ถ้าไม่อยากประสบปัญหาเรื่องเสียวฟัน หรือปวดฟันเวลาดื่มน้ำเย็นๆ ก็ต้องรักษาสุขภาพฟันให้แข็งแรงตลอดอายุการใช้งาน เพราะความบกพร่องเสียหายหรือเคลือบฟันบาง สึกกร่อน และอื่นๆ อาการทั้งหลายจะเริ่มต้นตั้งแต่อาการน้อยจนลุกลามขึ้นเรื่อยๆ จนไปถึงความผุกร่อนของฟันที่ทำให้เส้นประสาทที่รวมตัวอยู่ในโพรงประสาทฟันถูกกระทบจนรู้สึกจากเสียวฟัน มาถึงปวดฟันได้ และต้องยอมรับว่า ฟันของเราถูกใช้งานตั้งแต่ฟันแท้ขึ้นผ่านแต่ละวันๆ เคลือบฟันก็ย่อมบางตามวัยและการใช้งานอยู่แล้ว แม้จะพยายามดูแลอย่างดีแล้วก็ตาม สิ่งที่เราทำได้คืออย่ามีพฤติกรรมกระตุ้นให้เกิดเร็วขึ้นนั่นเอง
การดื่มน้ำร้อนหรือน้ำเย็นจัดแล้วเสียวฟัน คือสัญญาณเตือนว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแล้ว ให้รีบปรึกษาทันตแพทย์เพื่อรักษาอย่าปล่อยให้เรื้อรังจนเกิดอาการปวดเป็นดีที่สุด แม้ว่าจะมีบางกรณีที่สืบเนื่องจากการจัดฟันที่ทำให้ฟันปวดเมื่อกินน้ำเย็นจัดได้ ก็ถือเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง