Author Archives: admin

กลิ่นปาก….สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

กลิ่นปาก….สิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สาเหตุของกลิ่นปาก ส่วนใหญ่เกิดจากแบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้เกิดกลิ่นในปากเราแปรสภาพเศษอาหารตกค้างที่อยู่ตามซอกฟันเศษอาหารที่ตกค้างอยู่ตามซอกฟัน ที่ทำความสะอาดได้ยาก หรือในรูฟันผุ รวมทั้งแผ่นคราบฟันและหินปูนที่อยู่รอบๆ ฟัน ในกระบวนการย่อยสลายนี้เองที่ volatile sulphur compounds ถูกสร้างขึ้น ซึ่งเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ในช่องปากของเรานั่นเอง หรือเกิดการติดเชื้อในช่องปาก แต่จริงๆแล้วก็เกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายในและภายนอกช่องปาก 1.ปัจจัยภายนอกช่องปาก – การทานอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น กระเทียม หัวหอม ฯลฯ – การสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ 2.ปัจจัยภายในช่องปาก – ปัญหาจากภายในช่องปากเอง เช่น มีรูผุ มีคราบหินปูนสะสมภายในช่องปาก หรือเหงือกเป็นหนองจากโรคปริทันต์ – ปัญหาจากรอบๆบริเวณลำคอ เช่น ไซนัสอักเสบ หรือต่อมทอนซิลอักเสบ – โรคทางระบบต่างๆ เช่น เบาหวาน ไตวาย วัณโรค โรคปอด และโรคระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ

ฟันแท้และฟันน้ำนม

ฟันแท้และฟันน้ำนม มีความสำคัญต่อเราทุกคน ทั้งการบดเคี้ยวอาหารหรือจะเป็นด้านความสวยงาม แต่ผู้ปกครองมักจะให้ความสนใจแต่ฟันแท้ เพราะคิดว่าเป็นฟันที่อยู่กับเราตลอดชีวิต โดยมองข้ามความสำคัญของฟันน้ำนมไป ฉะนั้นจึงเป็นเรื่องที่เราไม่ควรละเลยความรู้เกี่ยวกับความสำคัญของฟันน้ำนม ถ้ารักษาความสะอาดไม่ดีพอ เมื่อขากรรไกรมีขนาดใหญ่ขึ้นและฟันน้ำนมไม่ถูกถอนก่อนวัยอันควร ฟันแท้ที่งอกขึ้นมาใหม่จะมีโอกาสเรียงตัวได้ดีและสวยงาม แต่ถ้าฟันน้ำนมถูกถอนก่อนกำหนด จะทำให้เกิดผลเสียตามมา การสูญเสียฟันน้ำนมก่อนกำหนดฟันแท้ในตำแหน่งนั้นจะขึ้น จะทำให้เกิดปัญหาตามมา ดังนี้ 1.เมื่อสูญเสียฟันหน้า อาจทำให้เด็กพูดบางคำไม่ชัดได้ 2.เมื่อสูญเสียฟันหลัง เด็กก็จะไม่มีฟันใช้เคี้ยวอาหารหรือเคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด 3.การถอนฟันน้ำนมก่อนกำหนดในบางตำแหน่ง อาจจะทำให้ฟันแท้ที่ขึ้นมาก่อนล้มเข้าหาช่องว่างที่ถอนฟันน้ำนมไป ทำให้ฟันแท้ที่อยู่ในกระดูกขากรรไกร ไม่มีเนื้อที่ให้ขึ้นมาตรงๆได้ เกิดฟันซ้อน ฟันเกในภายหลังได้

Tea time

Tea time ชานั้นมีสารแทนนิน ซึ่งเป็นสารที่ทำให้มีรสฝาด พบมากในกาแฟ ชา และไวน์ ทำให้เกิดคราบเหลืองติดแน่นบนผิวฟัน การดื่มชาบ่อยๆ จะมีโอกาสให้เกิดคราบสีเหลืองเกาะติดที่แผ่นคราบน้ำลายหรือแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่เคลือบอยู่บนผิวฟัน ส่งผลให้ฟันมีสีเหลืองเข้มขึ้น เมื่อไม่ได้กำจัดออกแผ่นคราบเหล่านี้ ก็จะกลายมาเป็นหินปูนสะสมบนตัวฟันได้ ซึ่งเราสามารถป้องกันได้ โดย 1.ควรแปรงฟันหลังการดื่มชา 2.ควรใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันด้วยทุกครั้ง 3.พบทันตแพทย์ เพื่อขูดหินปูนและขัดฟัน ทุก 6-12 เดือน

ไหมขัดฟัน….ต้องใช้ทุกวัน

  การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน ให้ทั่วทุกซี่ทุกด้านนาน 2 นาที ไม่รับประทานอาหารหลังแปรงฟันอย่างน้อย 2 ชั่วโมง หลายคนคิดว่าเพียงพอแล้วสำหรับการดูแลสุขอนามัยภายในช่องปาก แต่การแปรงฟันเพียงอย่างเดียวไม่สามารถกำจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่อยู่บริเวณที่แปรงสีฟันเข้าไม่ถึงได้ จึงต้องใช้ ไหมขัดฟันช่วยทำความสะอาดฟันเพิ่ม อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง หลังแปรงฟัน เพื่อลดการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของฟันผุ และเหงือกอักเสบโดยเฉพาะบริเวณซอกฟันและด้านข้างของฟันที่อยู่ชิดกัน ข้อควรระวัง คือ ค่อยๆ เลื่อนไหมขัดฟันไปมาเบาๆ เพื่อแทรกเข้าซอกฟัน ไม่ใช้วิธีกดไหมขัดฟันให้ผ่านเข้าซอกฟันโดยตรง ไม่ใช้ไหมขัดฟันอย่างรุนแรง เพราะอาจทำให้เหงือกเลือดออกเป็นแผลได้ หรือหากไหมขัดฟันฉีกขาดเมื่อผ่านซอกฟัน อาจเกิดจากฟันผุด้านข้าง หรือมีหินน้ำลาย ซึ่งควรไปพบทันตแพทย์เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุต่อไป ไหมขัดฟัน….ต้องใช้ทุกวัน  

วิธีการดูแลฟันและช่องปาก กรณีใส่ครอบฟัน

วิธีการดูแลฟันและช่องปาก กรณีใส่ครอบฟัน ครอบฟัน คือ ฟันเทียมติดแน่นที่ใช้ครอบหรือคลุมฟันที่เสียหายทั้งซี่ เพื่อทำให้ฟันซี่นั้นแข็งแรงขึ้น การครอบฟันนั้น มักใช้เซรามิก ซึ่งสามารถที่จะปรับสีให้ใกล้เคียงกับสีฟันปกติได้ ส่วนวัสดุอื่นๆ เช่น ทองหรือโลหะผสม จะมีความแข็งแรงมากกว่า จึงแนะนำให้ใช้ในฟันกรามที่ใช้สำหรับการบดเคี้ยว แต่ยังสามารถคงความสวยงามได้โดยการใช้เซรามิกมาปิดบริเวณด้านแก้มหรือในบริเวณที่ยิ้มแล้วสามารถมองเห็นได้ อย่างไรก็ตามถึงแม้ตัวครอบฟันจะคลุมฟันทั้งซี่ แต่ก็ยังมีส่วนของฟันธรรมชาติบริเวณใต้ขอบเหงือก ที่ยังสามารถจะเกิดโรคฟันผุได้เหมือนเดิม ดังนั้นเราควรที่ดูแลทำความสะอาดฟันให้ดี เพื่อให้สามารถใช้ครอบฟันได้นานยิ่งขึ้น โดยมีวิธีการดูแลดังนี้ 1.แปรงฟันให้ถูกวิธีตามคำนำนำของทันตแพทย์และแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง 2.ควรใช้ไหมขัดฟันร่วมกับการแปรงฟันทุกครั้ง หรืออย่างน้อยควรใช้หลังการแปรงฟันในตอนเย็น 3.ไม่ควรใช้ไหมขัดฟันโดยใช้แรงมากเกินไป อาจจะทำอันตรายต่อเหงือกได้ 4.ใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ 5.หลีกเลี่ยงการเคี้ยวอาหารเหนียวหรือแข็ง บริเวณที่ใส่ครอบฟัน 6.ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของทันตแพทย์อย่างเคร่งครัด 7.พบทันตแพทย์ เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน

ทำไมยาสีฟันจึงต้องผสมฟลูออไรด์

ทำไมยาสีฟันจึงต้องผสมฟลูออไรด์ ฟลูออไรด์เป็นเกลือของธาตุฟลูออรีน พบได้ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และพบอาหารบางชนิด โดยเฉพาะอาหารทะเลและในพืชผักบางชนิด ตลอดจนมีการผลิตขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ ในรูปแบบต่างๆ คนเราได้รับฟลูออไรด์ทางธรรมชาติจากน้ำ ดื่มและอาหาร ฟลูออไรด์จะถูกดูดซึมได้เกือบหมด และไปสะสมที่กระดูกและฟัน ในทาง ทันตกรรมนั้นใช้เพื่อการป้องกันฟันผุ ส่วนของฟันที่ขึ้นมาในช่องปากแล้วจะใช้ฟลูออไรด์ในลักษณะให้ สารฟลูออไรด์ได้สัมผัสกับผิวเคลือบฟัน เช่น การแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ การใช้น้ำยาบ้วนปากผสมฟลูออไรด์ จะทำให้สภาพช่อง ปากได้รับฟลูออไรด์ในความเข้มข้นต่ำๆ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะไปเพิ่มความ แข็งแรงให้กับฟันอย่างได้ผลดี ฟลูออไรด์ที่ผสมในยาสีฟันสามารถจะช่วยป้องกันฟันผุ ซึ่งก็ต้องร่วมกับการทำความสะอาดฟันที่ถูกวิธี โดย – ช่วยชะลอการย่อยสลายของแร่ธาตุ – ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อกรดให้ผิวเคลือบฟัน ถ้าได้รับ ฟลูออไรด์โดยการกิน ในช่วงที่มีการสร้างฟัน ทำให้ฟันมีโอกาสผุยากขึ้น – เสริมกระบวนการคืน กลับของแร่ธาตุบนผิว เคลือบฟัน ทำให้ยับยั้งการผุของผิวเคลือบฟันใน ระยะแรกๆ ฟลูออไรด์มีประโยชน์ แต่ก็ควรระมัดระวังในการใช้ ไม่ควรใช้ฟลูออไรด์ในปริมาณที่มากเกินไป เช่น การกินยาเม็ด ยาน้ำฟลูออไรด์ ต้องกินในปริมาณที่กำหนด หรือการแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ ต้องระวังการกลืนยาสีฟัน โดยใช้ปริมาณยาสีฟันแค่พอเพียงประมาณขนาดเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พอ

เมื่อเราต้องใส่ฟันปลอม ทราบหรือไม่ว่า ฟันปลอมมีกี่แบบ??

เมื่อเราต้องใส่ฟันปลอม ทราบหรือไม่ว่า ฟันปลอมมีกี่แบบ?? 1.ฟันปลอมบางส่วนถอดได้ เป็นการทดแทนฟันธรรมชาติที่สูญเสียไป ใช้กับคนไข้ที่ยังมีฟันเหลืออยู่บางส่วน ซึ่งนอกจากฟันปลอมชนิดนี้จะใส่เพื่อเติมเต็มช่องว่างฟันที่หายไปแล้วก็ยังช่วยป้องกันการเปลี่ยนตำแหน่งของฟัน โดยมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก สามารถถอดออกมาทำความสะอาดภายนอกช่องปากได้ แต่ประสิทธิภาพการใช้งานแตกต่างจากฟันธรรมชาติพอสมควร ผู้ป่วยจำเป็นต้องฝึกการควบคุมกล้ามเนื้อแก้มและลิ้นให้คุ้นเคยกับการใช้ฟันปลอมชนิดนี้ เพื่อฝึกการพูดออกเสียง และการบดเคี้ยวให้เป็นไปอย่างธรรมชาติ ซึ่งวัสดุที่ใช้ทำฐานฟันปลอมชนิดนี้มี 3 แบบ – ฐานพลาสติกมีลักษณะคล้ายพลาสติกชนิดแข็ง ส่วนฐานมีความหนาอย่างน้อย 2 มิลลิเมตร และปิดคลุมเนื้อเยื่อเหงือกหรือเพดานปาก มีโอกาสแตกหักได้ง่ายกว่าชนิดอื่นและมีข้อเสียจากรูพรุนของอะคริลิกที่ทำให้เกิดกลิ่นหรือคราบฝังลึกลงในผิวอะคริลิกได้ – ฐานโลหะ เป็นฐานฟันปลอมที่มีความแข็งแรงสามารถออกแบบให้ส่วนฐานปิดทับเนื้อเยื่อเหงือกหรือเพดานปากให้บางและน้อยที่สุดได้ ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการออกเสียงพูดไม่ชัดหรือการปิดพื้นที่สัมผัสอาหารในขณะรับประทาน แต่พื้นผิวบางส่วนที่รองรับฟันปลอมก็จำเป็นต้องใช้วัสดุชนิดอะคริลิกร่วมด้วย – ฐานพลาสติกยืดหยุ่น (Valplast) เป็นฐานฟันปลอมที่มีความยืดหยุ่น บิดงอได้ มีน้ำหนักเบาไม่แตกหักได้ง่ายเหมือนชนิดอื่นๆ 2.ฟันปลอมทั้งปาก ใช้สำหรับผู้ที่ไม่มีฟันบนหรือฟันล่างเหลืออยู่เลย ซึ่งฐานของฟันปลอมก็มีทั้งแบบพลาสติกกับฐานโลหะ เช่นเดียวกับฟันปลอมบางส่วนถอดได้ 3.ครอบฟัน เป็นฟันปลอมบางส่วนชนิดติดแน่น โดยใช้วัสดุมาครอบหรือคลุมฟันทั้งซี่ เพื่อทำให้ฟันแข็งแรงขึ้น การครอบฟันนั้นมักใช้โลหะแล้วเคลือบภายนอกด้วยพอร์ซเลนหรือเซรามิก เป็นส่วนประกอบซึ่งสามารถปรับสีให้เข้ากับสีฟันตามธรรมชาติได้ 4.สะพานฟัน เป็นฟันปลอมบางส่วนติดแน่นที่มีส่วนของครอบฟันยึดติดกับฟันธรรมชาติทั้งสองข้าง และมีส่วนของฟันแขวนอยู่ตรงกลางใช้ทดแทนฟันธรรมชาติที่หายไป 1-2 ซี่ ไม่ต้องมีตะขอ ไม่ต้องมีแผ่นเหงือกอะคริลิคให้เกะกะ เราไม่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้เอง 5.รากฟันเทียม ผลิตจากวัสดุไทเทเนียม แล้วฝังลงไปในกระดูกขากรรไกรในตำแหน่งที่สูญเสียฟันธรรมชาติไป […]

เคลือบฟันเทียม หรือ วีเนียร์

เคลือบฟันเทียม หรือ วีเนียร์ เมื่อมีปัญหาฟันหน้าบิ่น สึก หัก มีสีเหลืองหรือสีคล้ำ มีขนาดฟันไม่เท่ากัน ทำให้ไม่มีความมั่นใจที่ต้องยิ้มและใช้งานฟัน การแก้ความบกพร่องเหล่านี้ด้วยเคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ ให้ฟันกลับมาสวยงาม ยิ้มได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง เป็นอีกทางเลือกที่เป็นการอนุรักษ์เนื้อฟันได้มากกว่าการทำครอบฟัน ซึ่งเคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ คือ การเคลือบผิวฟันโดยใช้วัสดุที่มีลักษณะสีคล้ายเคลือบฟันธรรมชาติ มาติดบริเวณด้านหน้าฟัน ซึ่งจะช่วยในเรื่องของความสวยงามน่ามอง เคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ มีอยู่ 2 ชนิด คือ 1. เคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ แบบใช้วัสดุอุดฟันคอมโพสิตเรซิน โดยการนำเอาวัสดุมาปิดบริเวณด้านหน้าของฟันภายหลังการกรอผิวฟันธรรมชาติออกเล็กน้อยหรือในบางกรณีก็อาจจะไม่ต้องกรอเลย ซึ่งวิธีนี้สามารถทำในคลินิกได้ทันที โดยใช้เวลาประมาณ 1-2 ชม. 2. เคลือบฟันเทียมหรือวีเนียร์ แบบเซรามิก โดยวิธีนี้ต้องมีการกรอแต่งผิวหน้าฟันและต้องมีการพิมพ์แบบฟัน เพื่อส่งแลปทำชิ้นงานเซรามิก ซึ่งต้องใช้เวลามาที่คลินิคอีกครั้งเพื่อยึดติดชิ้นงานถาวรบนผิวฟัน

3 อาหารที่มีคุณประโยชน์ ช่วยให้มีรอยยิ้มที่มั่นใจ

3 อาหารที่มีคุณประโยชน์ ช่วยให้มีรอยยิ้มที่มั่นใจ 1.น้ำเปล่า เป็นส่วนประกอบหลักในร่างกายมนุษย์ การดื่มน้ำให้เพียงพอและสม่ำเสมอมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ปริมาณของน้ำที่ดื่มในทุกวันมีบทบาทสำคัญในการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ เพื่อสุขภาพที่ดีผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้วต่อวัน การมีกลิ่นปากเป็นสัญญาณว่าคุณอาจดื่มน้ำไม่เพียงพอ เพราะน้ำช่วยให้ปากชุ่มชื้นและช่วยล้างเศษอาหารที่ตกค้างรวมไปถึงแบคทีเรียในปากได้ด้วย นอกจากนี้ยังช่วยเจือจางสารที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นในปากซึ่งแบคทีเรียสร้างขึ้นมา ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอ และบ้วนปากด้วยน้ำสะอาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังมื้ออาหารหรือมื้ออาหารว่างเพื่อควบคุมกลิ่นและช่วยขจัดแบคทีเรีย รวมไปถึงเศษอาหารที่ติดอยู่ตามซอกฟันและซอกเหงือกด้วย 2.ผักใบเขียว และผลไม้ที่มีกากใย ประโยชน์และสรรพคุณของผักใบเขียวจะช่วยลดการเกิดโรคหัวใจ ทั้งยังช่วยในเรื่องของการมองเห็น เพราะในผักใบเขียว มีแคโรทีนอยด์ถึงสองชนิดคือ ลูทีน และซีแซนทิน ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม และยังอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จะช่วยให้ร่างกายผลิตเซลล์ใหม่ ๆ ทั้งเป็นแหล่งวิตามินอีและโฟเลตที่ช่วยชะลอปัญหาความจำเสื่อม นอกจากนี้ การรับประทานอาหารที่มีกากใยสูง ก็ยังสามารถช่วยขัดสีฟัน ทำให้ลดอัตราการเกิดฟันผุทางอ้อมได้อีกด้วย 3.ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ประโยชน์ของวิตามินซีมีมากมากหลายอย่าง ไม่ว่าจะช่วยปกป้องเซล เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับเส้นเอ็นและคอลลาเจน นอกจากนี้ยังมีฤทธิ์ในการเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ดี จึงสามารถป้องกันการทำลายเซลจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และช่วยให้ร่างกายสามารถรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ ดังนั้นการทานผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง ก็จะช่วยเสริมสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อภายในช่องปาก ลดการเกิดการอักเสบบริเวณเหงือกและลดการเกิดเลือกออดตามไรฟันได้ อย่างไรก็ตามอาหารเหล่านี้ก็เป็นเพียงปัจจัยเสริม การที่เราจะมีรอยยิ้มที่สวยงาม มีความมั่นใจ ก็จะต้องหมั่นแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอประกอบด้วยเช่นกัน

ขูดหินปูนแล้ว ทำให้ฟันห่าง จริงหรือ?

ขูดหินปูนแล้ว ทำให้ฟันห่าง จริงหรือ?     หินปูนนั้น เกิดจากแผ่นคราบจุลินทรีย์ที่สะสมมาจากคราบอาหารและน้ำลายของเรา เมื่อเราไม่สามารถแปรงฟันเพื่อทำความสะอาดแผ่นคราบจุลินทรีย์นี้ได้ดีเพียงพอ ก็จะเกิดการตกตะกอนของแร่ธาตุจากน้ำลายจนเกิดเป็นคราบหินปูนในที่สุด การขูดหินปูน เป็นการใช้ความถี่ในการสั่นของด้ามเครื่องมือที่ส่งผ่านมายังหัวขูด เพื่อที่จะกะเทาะให้หินปูนแตกเป็นแผ่นๆ ออกมา ไม่ใช่เป็นการไปขูดหรือไปกรอฟันให้ตัวฟันของเรานั้นบางลง หลังการขูดหินปูน เราจะรู้สึกว่าฟันห่าง ซึ่งจริงๆแล้ว หลังจากกะเทาะหินปูนออกไป ลิ้นเราสามารถสัมผัสกันร่องฟันจริงของแต่ละซี่ได้ เลยอาจทำให้รู้สึกว่าฟันห่างได้ นอกจากนี้ การที่เราปล่อยให้เหงือกอักเสบเป็นระยะเวลานาน จำทำให้เหงือกร่น รวมทั้งอาจจะมีการทำลายกระดูกรอบๆรากฟัน ทำให้เห็นช่องว่างระหว่างรากฟันได้มากขึ้น เลยทำให้ดูเหมือนฟันห่างได้เช่นกัน   ที่มา  ขูดหินปูนทำให้ฟันบางจริงหรือไม่ ?

ย้อนกลับด้านบน